
Introduce Mascot Story
กลางมหาสมุทรสีน้ำเงินเข้มอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเกาะแห่งหนึ่งตั้งอยู่ เกาะนี้ปกคลุมด้วยพรรณพืชเขียวชอุ่มและ ดอกไม้นานาพรรณสีสันสดใส ความสวยงามนี้ทำให้มีคำเปรียบเปรยเกาะว่าเป็นเสมือนอัญมณีเม็ดงามแห่งท้องทะเล เกาะแห่งนี้มีชื่อวาเกาะอันดามันดา ชาวเกาะอันดามันดาอาศัยอยู่อย่างสงบสุขในหมู่บ้านที่แบ่งออกเป็นห้าดินแดน ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่ากำลังจะมีเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นกับพวกเขา สถานที่ที่พวกเขาเรียกว่าบ้านกำลังจะเผชิญกับการผจญภัยอันแสนมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่
มีตำนานปรัมปรากล่าวไว้ว่า บนเกาะที่สวยงามรวมอัญมณีแห่งนี้มีสมบัติอันล้ำค่าฝังอยู่ใจกลางของเกาะ อย่างไรก็ดี ไม่มีใครรู้เลยว่าวสมบัติเหล่านนั้นคืออะไรและฝังอยู่ที่ไหน ถึงกระนั้นก็ตาม ก็มีผู้คนมากมายต้องการตามล่าหาสมบัติในตำนานแห่งเกาะอันดามันดา และหนึ่งในนั้นก็คือกัปตันสมุทร โจรสลัดผู้ซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องของความชั่วร้าย บนเรือเดินสมุทรที่ลอยอยู่ไม่ไกลจากเกาะอันดามันดามากนัน กัปตันสมุทรกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองมาที่เกาะด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความโลภ เขากำลังวางแผนกับลูกเรือที่จะเข้ายึดเกาะและค้นหาสมบัติในตำนานนั้น ทุกคนต่างรู้ดีกันว่ากัปตันสมุทรและลูกเรือเป็นโจรสลัดที่โหดเหี้ยมที่สุดในท้องทะเล ทุกที่ที่พวกเขาบุกไปจะไม่มีวันได้พบกับความสงบสุขอีกเลย
ทันใดนั้นเอง กลุ่มเมฆดำทะมึนได้เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมอ่าวอันดามันดาราวกับจะบอกเหตุร้าย พร้อมกันนั้นฝูงเรือของกัปตันสมุทรก็มุ่งหน้าเข้าสู่อ่าว เมื่อทอดสมอแล้ว กับตันสมุทรและลูกเรือทั้งหลายพร้อมอาวุธครบมือก็บุกขึ้นเกาะพร้อมส่งเสียงดังกึกก้อง ทำลายความสงบในยามเช้าของผู้คนบนเกาะอันดามันดาไปจนสิ้น ชาวเกาะต่างพากันตื่นตระหนกกับเสียงดังราวพายุนั้นและกรูกันมาที่ชายหาด เมื่อเห็นว่าบ้านอันเป็นที่รักของได้ถูกกัปตันสมุทรและลูกเรือบุกโจมตี
ทุกคนต่างส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก สะท้องก้องไปทั่วหาดที่เคยเงียบสงบ ชาวบ้านต่างพากันเกาะกลุ่มเข้าหากันด้วยความหวาดกลัวในขณะที่โจรสลัดบุกลึกเข้ามาในเกาะ ท่ามความโกลาหลนั้นเอง มีเด็กหนุ่มชาวเกาะผู้กล้าหาญนามว่า ไชยา ผู้มีวิชามวยไทยเป็นอาวุธประจำกายได้ออกปกป้องบ้านอันเป็นที่รักของเขาและชาวบ้านที่กำลังขวัญเสีย ไชยาได้ตะโกนท้ากัปตันสมุทรให้ออกมาปะทะกันตัวต่อ เมื่อกัปตันสมุทรได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะก้องด้วยความขบขัน ไชยาอาศัยจังหวะนั้นเองกระโจนเข้าโจมตีกัปตันสมุทรด้วยแม่ไม้มวยไทย กัปตันผู้ชั่วร้ายไม่ทันตั้งตัวจึงทำดาบกระเด็นหลุดจากมือ แววตาของกัปตันสมุทรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงด้วยความโกรธ เขาคำรามสั่งให้ลูกเรือเข้าโจมตีโดยทันที ชาวเกาะและลูกเรือเข้าตะลุมบอนกันจนฝุ่นทราบตลบไปทั่วบริเวณ ไชยาแทบมองไม่เห็นบรรยากาศโดยรอบแต่ก็พยายามใช้แม่ไม้มวยไทต่อสู้กับลูกเรือโจรสลัดอย่างสุดความสามารถ
อย่างไรก็ตาม ไขยาเห็นว่าชาวเกาะกำลังเสียเปรียบจึงได้ส่งสัญญานให้ชาวบ้านถอย ตัวเด็กหนุ่มได้ถอยร่นลึกเข้าไปจนมาหยุดอยู่หน้ารูปปั้นนากอนซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน หลังของเขาชนกับหินที่เย็นเฉียบของรูปปั้นขณะพยายามจะหลบดาบของโจรสลัด ทันใดนั้นเอง ตาของรูปปั้นนากอนได้เปล่งแสงขึ้น ไชยารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ลำแสงที่ตาของรูปปั้นเจิดจ้าขึ้นเรื่อย ๆ ไชยารู้สึกเหมือนตนเองกำลังหลุดไปยังอีกโลกหนึ่ง ตัวเขาหมุนคว้างผ่านอุโมงค์ดำทะมึน ในขณะเดียวกันนั้นเอง ไขยาเห็นภาพบางอย่างปรากฎขึ้น ภาพนั้นคือภาพของเทพเจ้านากอนผู้พิทักษ์เกาะอันดามันดามาตั้งแต่ก่อนกาล เทพเจ้านากอนมีความกังวลในความปลอดภัยของเกาะอันดามันดาหากเขาจากโลกไปนี้ จึงตัดสินใจแบ่งพลังของตนเป็นห้าส่วน พลังแต่ละส่วนถูกผนึกไว้ในสิ่งวิเศษห้าอย่าง และถูกกระจายไปทั่วเกาะทั้งห้าดินแดน
หลังจากแบ่งพลังแล้ว เพพเจ้านากอนก็ได้กลายเป็นรูปปั้นหิน พิทักษ์ทางเข้าหมู่บ้านแห่งเกาะอันดามันดา นากอนจะฟื้นคืนชีวิตได้ก็ต่อเมื่อสิ่งวิเศษทั้งห้าได้กลับมารวมกัน ทันใดนั้นเอง ไชยารู้สึกว่าตนเองมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เขามองเห็นแสงเรืองรองส่องออกมาจากสิ่งที่เหมือนมันกรขนาดมหึมา มันคือรูปปั้นนากอนนั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้ไชยาต้องตกตะลึงก็คือรูปปั้นกำลังเปล่งประกายด้วยแสงไฟ เสียงที่เบาแต่เปี่ยมไปด้วยพลังพูดกับเขาอย่างทรงอำนาจว่า “หมู่บ้านจะกลับมาสงบสุขอีกครั้งได้ก็ต่อเมื่อสิ่งวิเศษทั้งห้าอย่างทุกนำมารวมกันเท่านั้น” สิ้นเสียงอันทรงพลังนั้น ไชยาได้เห็นภาพปรากฎขึ้นตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง
สิ่งวิเศษชิ้นแรกคือหินมรกต ผู้ปกป้องหินมรกตคือกินนรีซึ่งอาศัยลึกอยู่ในป่ามรกตอันเขียวชอุ่ม หินมรกตมีพลังวิเศษมหาศาลและสามารถปกป้องผู้ครอบครองได้จากทุกอย่างในโลก ไม่มีสิ่งใดสามารถทลายเกราะของหินมรกตได้เลย สิ่งวิเศษชิ้นที่สองที่ไชยาเห็นนั้นปรากฏอยู่ใต้เกลียวคลื่นในโลกบาดาล เขาเห็นวารีเจ้าแห่งโลกบาดาลกำลังเข้ามาใกล้ ทว่าวารีไม่ได้กำลังว่ายน้ำ เขากำลังล่องมาบนสิ่งลึกลับที่ไชยาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันดูคล้ายผ้าสีเหลืองที่อ่อนนุ่มพริ้วไหว แต่ในขณะเดียวกันก็ดูแข็งแรงและมีรูปร่างเหมือนกระดานโต้คลื่น ไขยารู้ทันทีว่าสิ่งนั้นคือผ้าวิเศษในตำนาน ผ้าวิเศษนี้สามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้และจะรับคำสั่งจากวารีเป็นผู้เจ้าแห่งโลกบาดาลเท่านั้น
ภาพถัดมาที่ปรากฎให้ไชยาเห็นในนิมิตเป็นภาพของสายฟ้าฟาดบนท้องฟ้า พรัอมลูกไฟสีแดงเพลิงที่ตกลงไปยังกลางป่านาคาอย่างรวดเร็ว เมื่อตามลูกไฟสีแดงนั้นไป ไชยาเห็นถ้ำซ่อนอยู่ในป่าทึบ ถ้ำนั้นมีรูปร่างเหมือนรูปปั้นเทพเจ้านากอนและมีแสงเรืองออกมา เขาเห็นร่างเล็กๆ ขดอยู่อย่างสงบสุขในซอกถ้ำ มันคือนากอนน้อยนั่นเอง แต่ก่อนที่ไชยาจะได้เห็นว่านาก้อนน้อยจะกลายมาเป็นสิ่งวิเศษได้อย่างไรนั้น นิมิตก็เปลี่ยนไปเป็นภาพอ่าวอันดามันดาสีฟ้าครามสดใต้พระอาทิตย์เจิดจ้า นกนางนวลบินวนเหนืออ่าว พร้อมกันนั้นเองก็มีเสียงหัวเราะอันชั่วร้ายของกัปตันสมุทรดังก้องขึ้น กัปตับผู้ชั่วร้ายกำลังกวัดแกว่งดาบไปมาด้วยความภาคภูมิใจ มันคือคือ Sword of the World ซึ่งมีอานุภาพสามารถทำลายล้างแกนโลกได้ ดาบนี้เองคือสิ่งวิเศษชิ้นที่สาม
ภาพที่ไชยาเห็นเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาเห็นเกาะตะปูตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าล้อมด้วยอ่าวสีเขียวมรกต บนยอดสูงสุดของเกาะนั้นมีสิ่งวิเศษสิ่งที่ห้าฝังอยู่ใต้ต้นไทรต้นใหญ่ ไขยาได้ยินเสียงหัวใจเต้นเบา ๆ จากใต้ต้นไทรนั้น และเขาก็รู้ทันทีว่ามันคือหัวใจของนากอน เมื่อหัวใจนี้รวมเข้ากับร่างของนากอนน้อยที่หลับไหลอยู่ แสงสีเหลืองก็เปล่งประกายเจิดจ้าจากภายใน นากอนน้อยค่อย ๆ ตื่นจากการหลับไหล มันหาวเบา ๆ และจามติดๆ กันอย่างแรง ทำให้เกิดเปลวไฟและลำน้ำแข็งพุ่งไปรอบทิศทาง จากนั้นนากอนน้อยก็ขยับปีกสีเหลืองสดไปมาก่อนก็บินออกจากถ้ำไปสู่ท้องฟ้า มันบินฉวัดเฉวียนไปมาก่อนจะพุ่งหลาวลงสู่ทะเลสีฟ้าครามเบื้องล่าง
ภาพในนิมติตัดกลับมาสู่ความมืดอีกครั้ง ไขยารู้สึกว่าเขาถูกส่งกลับมาที่ถ้ำ เมื่อลืมตาขึ้นเขาเห็นรูปปั้นนากอนอยู่ตรงหน้า เสียงต่อสู้ของชาวเกาะกับโจรสลัดยังดังอยู่โดยรอบ ไชยาได้เสียงเสียงเทพเจ้านากอนพูดกับเขาว่า “เราจะต้องรวมสิ่งวิเศษทั้งห้าอย่างมาให้ได้ก่อนจะตกสู่มือของคนชั่ว ไชยา เจ้าคือผู้ที่ถูกเลือกให้รับภารกิจนี้ เจ้าพร้อมที่รับหน้าที่นี้หรือไม่” ขณะนั้นท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีส้มด้วยแสงพระอาทิตย์ตกดิน แววตาของไชยาเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เขาตอบเทพเจ้านาก้อนด้วยเสียงที่มั่นคงว่า “ผมพร้อมครับ”